ขึ้น BTS อย่างไร ให้ประหยัดตังค์ ในกระเป๋า
การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชลต่างๆ แทบจะเป็นปัจจัยหลักอีกปัจจัยหนึ่งของชาวกรุงเทพเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถไฟฟ้า BTS ที่อำนวยความสะดวกและลดระยะเวลาการเดินทางในเมืองหลวงอันแสนวุ่นวาย เต็มไปด้วนรถราที่วิ่งกันขวักไขว่ ในเมื่อการขึ้นรถไฟฟ้า เป็นปัจจัยหลักอีกหนึ่งปัจจัยของคนกรุง เราจะมีวิธีไหนที่ช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้บ้าง
1.เลือกประเภทการซื้อบัตรให้เหมาะสม
การเลือกซื้อบัตรโดยสาร ของ บีทีเอสนั้น มีราคา และรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งซื้อเยอะราคาเที่ยว bts ก็จะยิ่งถูกลง เช่น หากนานๆใช้ที แต่เกิน 10-15 ครั้ง ก็ควรเลือกแบบ เติมเที่ยวเดินทาง เอาจะดีกว่าการซื้อรายครั้ง หรือ คนที่จำเป็นต้องเดินทางบ่อยๆ ซื้อเหมารายเที่ยวก็จะถูกกว่าเติมซื้อรายครั้ง สำหรับเที่ยวเดินทางของรถไฟฟ้า BTS แบ่งออกเป็น 2 ประเภท 4 ราคาให้เลือกตามปริมาณการใช้งานของแต่ละคน โดยจะสามารถใช้งานได้ 30 วัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งานหักเที่ยวเดินทางครั้งแรก ในปัจจุบันสามารถเลือกเติมเที่ยวเดินทางได้ 2 ช่องทาง คือ ห้องออกบัตรโดยสารทุกสถานี หรือผูกบัตรแรบบิท กับ Rabbit LINE Pay เติมเที่ยวเดินทางในแอปพลิเคชัน LINE
2.การเลือกชำระผ่านบัตรเครดิต
ในปัจจุบัน มีบัตรเครดิตหลายตัวที่นิยมให้ใช้จ่ายชำระผ่านการตัดบัตร แล้วเมื่อถึงครบกำหนดชำระค่อยไปชำระคืน พร้อมทั้งมีเงินคืนให้เราอีก ในทุกครั้งที่เราจ่ายเรียกได้ว่าซื้อตั๋วราคาเที่ยว bts ได้ในราคาที่ถูก แถมมีเงินคืนอีกต่างหาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องหมั่นเช็คโปรโมชั่นกับธนาคารหรือกับทางรถไฟฟ้า bts และผู้ออกบัตรอยู่เสมอ
3.ในกรณีผู้สูงอายุ หรือนักเรียน นักศึกษา
บีทีเอส เขาใจดี มีส่วนลดพิเศษให้กับบุคคลสองกลุ่มนี้ได้จ่ายค่าตั๋ว bts ในราคาที่ถูกกว่ากลุ่มอื่น แม้บัตรของนักเรียน นักศึกษาราคาจะไม่ต่างกับบัตรธรรมดาเท่าไรนัก แต่สำหรับบัตรของผู้สุงอายุแล้วจะมีส่วนลดมากถึง 50% ทุกครั้งที่ใช้บริการด้วยรถไฟฟ้า BTS ค่าโดยสารจะเหลือแค่ 8-22 บาท จากปกติจะอยู่ที่ราคาเที่ยว bts ละ 16-44 บาท หากคิดต่อเที่ยวโดยสายจะได้ส่วนลดกว่า 40% เลยทีเดียว เรียกได้ว่า ถูกและคุ้มสุดสุด
นี่ก็เป็น 3 เคล็ดลับง่ายๆที่จะช่วยคุณประหยัดค่าเดินทาง ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ต้องมาเสียทุกวัน ไว้ครั้งหน้า มาติดตามกันนะคะ เราจะมีเคล็ดลับอะไรดีๆมาฝากกันอีก